Tuesday, July 31, 2012

เสม็ด ・สอง ・

เช้าแล้วจ้าาา
เช้านี้เจ้าของบล็อกก็วางแผนจะนอนตีพุงริมหาด เลยต้องตื่นเช้าซะหน่อย
เรามีเวลากันถึงบ่ายโมงค่ะ เรือออกจากเกาะของทางโรงแรมจะมี 2 รอบ คือ รอบ 10 โมงเช้า กับรอบบ่ายโมงค่ะ

อาหารเช้า เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้พนักงานมาเสิร์ฟที่ห้อง หรือจะไปทานที่ห้องอาหาร
ถ้ามาเสิร์ฟที่ห้อง ต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่เกิน 4 ทุ่มค่ะ แต่ถ้ามาที่ห้องอาหารก็จะมีเมนูให้เลือกหลาหกลายกว่าพอสมควรทีเดียว เราเลือกไปทานที่ห้องอาหารกันค่ะ แนะนำให้ดูเมนูก่อนนะคะ เจ้าของบล็อกไปตักอาหารจาก line มาทานก่อน พอเริ่มอิ่มมาดูเมนู ว้ายยยยย มี egg benedict ด้วย แต่ว่าเค้าอิ่มแล้วง่า... เสียใจ :'(

 เมนูอาหารเช้า

คุณแฟนสั่งสเต๊กเนื้อมาทานด้วย แต่เจ้าของบล็อกเลิฟกราแตงมันฝรั่งที่เสิร์ฟมาเคียงกันมากกว่า เลยขอกราแตงมากินเปล่าๆซะจานนึง ฮ่า...


แยมมีให้เลือก 4 รสชาติ สตรอว์เบอร์รี่เชียงใหม่, น้ำผึ้งดอกลำไย, เสาวรส และมะพร้าว
รสมะพร้าวอร่อยค่ะ เหมือนวุ้นมะพร้าวเลย >.<

ทานเสร็จก็กลับมาเปลี่ยนชุด พกไวน์ไปนั่งชายหาดกัน อยากจะบอกว่า มันเยี่ยมมาก :D การได้นั่งอ่านหนังสือ จิบไวน์ ริมชายหาดนี่มัน... สุขสุดๆไปเลย




รู้ตัวอีกทีเวลาก็หมดแล้วค่ะ รีบวิ่งไปเก็บของเป็นการใหญ่
ขากลับก็ยังมีพนักงานตั้งแถวยืนส่งเช่นเคย มีรถไปส่งถึงเรือโดยที่เท้าไม่เปียกเช่นเคย


และที่ซื้อใจกันสุดๆ คือ...

วินาทีที่เรือเริ่มออก พนักงานพร้อมใจกันโบกมือลาค่ะ เท่านั้นไม่พอ เขาโบกมือลาจนเราลับตากันไปเลย แล้วเขายืนกันกลางแดดร้อนๆเลยนะคะ นี่มันรู้สึกพิเศษเหมือนกันกินแม็กนั่ม 2 แท่งเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ


ขึ้นบกปั๊บ หิวค่ะ (เอ่อ.. ยายคนนี้กินได้ตลอด) ซึ่งน้องพนักงานเขาแนะนำร้านบ้านระเบียงไม้ข้างๆท่าจเด็จ ก็เลยพุ่งตัวไปกินโดยด่วนค่ะ

แต่ แต่ แต่...

ผิดหวังค่ะ :(
อาหารเฉยมากกกก รอนานนนนนน ขออะไรไม่ค่อยได้ และไม่สะอาด

 อาหาร 4 อย่างที่สั่งมา

ก่อนออกมา เหลือบเห็นไอศรีมไข่เค็มหมูหยอง ก็เอิ่ม... เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว
พอได้ลองชิมก็... อืม... คือมันก็แปลกดี รสชาติก็ไม่ได้หยึยมากมาย แต่ก็คงแค่ลองให้รู้อ่ะค่ะ ครั้งเดียวพอ



 ทานเสร็จแวะไปซื้อของฝาก แล้วก็ดิ่งกลับกอทอมอโลดค่า
 ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวด้วยกันนะค้า :)

Monday, July 30, 2012

เสม็ด ・หนึ่ง ・

สเม็ดรอบนี้เกิดจากคุณแฟนได้บัตรงานคอนเสิร์ต Samed in Love มาค่ะ
เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดที่เสม็ดทุกปี (แต่เจ้าของบล็อกก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ฮ่า..) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ 

พอได้บัตรคอนเสิร์ตมา ขั้นตอนต่อไปก็มาหาที่พักกัน
เลือกไปเลือกมาก็มาจบที่ปารดีค่ะ เนื่องจากคุณแฟนเคยมา outing ที่นี่ แล้วก็ชอบมาก อยากให้เราได้สัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกัน (เจ้าของบล็อกก็เคยมา outing เสม็ดนะ แต่ของเค้า low cost กว่าเยอะเลยง่ะ :( ) เดี๋ยวลองตามมาดูกันนะคะว่าจะประทับใจจริงรึเปล่า


ก่อนออกเดินทาง

การเดินทางรอบนี้เจ้าของบล๊อกกับแฟนออกจะงงๆ วิ่งบางนาอยู่ดีๆ กลับมาเข้ามอเตอร์เวย์เฉย (~ . ~) เลยไม่ขอแนะนำเส้นทางนะคะ เดี๋ยวจะพากันหลงทางเสียเวลาไปใหญ่ เอารูปรถ Thailand only มาฝากแทนก็แล้วกัน



พอถึงระยองก็หาทางขับไปจนถึงถนนเลียบหาด แล้วก็หาท่าจเด็จให้เจอค่ะ เราจะขึ้นเรือจากท่านี้กัน พนักงานจะพาเราไปจอดรถ แล้วกลับมานั่งรอที่อาคารด้านหน้า



วิวจากที่รอนั่งรอเรือค่ะ

กลับมานั่งรอเรือกัน น้องพนักงานจะพาเราไปเลือกน้ำมันหอมระเหยที่จะใช้ในห้อง, สบู่สมุนไพร 2 ก้อน แล้วก็เครื่องดื่มค่ะ (ไวน์ขาว, ไวน์แดง และสปาร์คกลิ้ง)เลือกกันจนมึนเลย มีหลายกลิ่นจัด

เรือที่จะไปเกาะมี 2 รอบค่ะ รอบบ่าย 2 โมง กับรอบ 5 โมงเย็น ซึ่งเจ้าของบล๊อกเลือกมารอบบ่าย 2 ค่ะ พอได้เวลาก็จะมีรถกอล์ฟมาพาเราไปที่เรือ เป็นเรือลำเล็กๆค่ะ นั่งกันแค่ 4 คนต่อลำ ปารดีอยู่อ่าวกิ่ว ซึ่งก็คืออยู่ไกลลลลลที่สุดในบรรดาอ่าวต่างๆของเสม็ด ก็เลยใช้เวลาพอสมควร ระหว่างทางก็เห็นเขากำลังสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ ดีไซน์เป็นรูปปี่ขนาดยักษ์ นัยว่าให้สอดคล้องกับพระอภัยมณี ซึ่งเอิ่ม.. รูปร่างพิกลชะมัด แล้วยังจะบอกว่าเป็นปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ก็แน่ละเซ่.. ใครเขาจะทำสิ่งก่อสร้างรูปปี่กันอีกในโลกนี้)

ก่อนถึงที่หมายเจ้าของบล็อกกำลังจะก้มไปถอดรองเท้า เพราะถ้าเรือถึงฝั่งแล้วต้องลงเรือเหยียบน้ำ รองเท้าต้องเยินแน่ แต่พอเงยหน้ามา เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ... นั่นมัน รถแทร็กเตอร์ดัดแปลงค่ะ เค้าเอาไม้มาพาดบนตัวรถเพื่อให้คนลงจากเรือ มาเหยียบพื้นรถ แล้วรถก็จะไปปล่อยเราลงตรงพื้นที่แห้ง โดยที่เราไม่ต้องเหยียบน้ำทะเลให้เหนียวเหนอะหนะรำคาญใจ ทะเลก็สวยมากกกกก เหลือบไปด้านซ้ายก็มีพนักงานตั้งแถวต้อนรับพร้อมผ้าเย็น คือ... รู้สึกพิเศษอย่างกับว่ากินไอติมแม็กนั่มอยู่เลยทีเดียว


ลงจากรถก็เดินต่อไปที่ห้องค่ะ ระหว่างนั้นพนักงานก็อธิบายถึง complimentary ต่างๆ คือ
บ่าย 3 โมง มีไอศครีมเสิร์ฟที่สระน้ำ
บ่าย 4 โมง ชาพร้อมของว่าง
5 โมงเย็น รับ welcome drink

มาถึงห้อง เขาจุดน้ำมันหอยระเหยตามกลิ่นที่เราเลือกไว้ตั้งแต่อยู่บนฝั่งไว้ให้ แช่ไวน์ไว้เสร็จสรรพ พร้อมทั้งผลไม้อีก 1 ถาดใหญ่ มีแอปเปิ้ล องุ่น สาลี่ กล้วย ทำนองนี้

  Pool หน้าห้องค่ะ มีน้องนกมาเล่นน้ำอยู่ด้วย


 
 
 

ห้องน้ำมีทั้งส่วนที่เป็น tub และ shower นะคะ จากอ่างอาบน้ำ มองไปก็จะเห็นสระน้ำค่ะ



 สบู่ 2 กลิ่นที่เราเลือกไว้ค่ะ Peach กับ Sweet Almond

เจ้าของบล็อกมัวแต่กรี๊ดกร๊าด เลยไปไม่ทันเวลาเสิร์ฟไอศครีม แหง่วววว... แต่ก็ได้เวลา 4 โมงพอดีค่ะ เลยสั่งชามาทานกัน มีให้เลือกระหว่างคาโมมิลล์ กับเอิร์ลเกรย์ ของว่างคู่ชาที่เขาให้มาก็โอเคนะคะ จำนวนไม่น้อยไป ไม่กั๊ก รสชาติโอเค




 Chocolate mousse อร่อย :9

ทานเสร็จก็ได้เวลาไปเดินเล่น ถ่ายรูป อัพเฟสบุค ig ลั้นลากัน ต้องบอกว่าทะเลที่นี่สวยมากค่ะ น้ำใส ทรายขาวละเอียด ครบคุณสมบัติทะเลสวย :D ก็เลยนอนตีพุงกลิ้งไปกลิ้งมากันซักพัก ดูเวลาอีกที อุ๊ย.. 5 โมง ไปรับ welcome drink ดีฝร่า ฮ่า...

Panorama view

 Welcome drink เขาเสิร์ฟที่ sunset bar ค่ะ ต้องเดินไปฝั่งตรงข้ามกับชายหาดที่เราลงเรือมา ซึ่งหาดฝั่งนี้จะเป็นหิน ดูขลังทีเดียว เครื่องดื่มก็มีทั้ง cocktail, mocktail, spirit ต่างๆ ก็เลือกกันตามใจชอบได้เลยค่ะ เหมือนจะจำกัดราคาที่ 500 บาท แต่ก็ไม่แน่ใจนะคะ ใครไปก็ลองเช็คกันดูอีกที เจ้าของบล็อกเลือก ลิ้นจี่มาการิต้ามา ของคุณแฟนเป็น dark rum กับโค้กค่ะ



ก็ยังมีของว่างมาให้เช่นเคย *>.<*

นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินได้ซักพัก น้องพนักงานแนะนำว่า รถไปอ่าววงเดือนที่มีจัดคอนเสิร์ตน่าจะติด น่าจะออกไม่เกิน 6 โมงนิดๆ ก็เลยให้พนักงานช่วยเรียกรถให้ เป็นรถสองแถวนะคะ เขาคิดราคาเหมา เที่ยวละ 500 ก็เท่ากับว่า ไป-กลับ 1,000 บาท ซึ่งถ้าเจ้าของบล็อกรู้ว่าทางจะโหดขนาดนี้ล่ะก็... คงขอนอนตีพุงอยู่ที่ปารดีเป็นแน่แท้ คือทั้งชัน ทั้งขรุขระ ทั้งหลุมบ่อ คือรวมความทรหดไว้ในที่เดียว แล้วไม่ได้ใกล้ๆเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าอ่าวกิ่ว เป็นอ่าวที่อยู่ห่างไกลจากชาวบ้านเขามากที่สุด คืออยู่ท้ายสุดของเกาะ ก็เลยรู้สึกว่านานมากกกก และทรมานมากกกก



มาถึงอ่าววงเดือนก็น่วมเลยค่ะ คนก็เยอะตามคาดจริงๆ คอนเสิร์ตจัดอยู่ริมหาดเลยนะคะ ใครใคร่เล่นน้ำก็ลงไปดำผุดดำว่ายกันได้ ศิลปินก็หลากหลายทีเดียว
 

ดูอยู่ซักพักใหญ่ ก็เดินทางกลับกันค่ะ ซึ่งขากลับนี่สยองกว่าขามามาก เพราะถนนไม่มีไฟ แล้วมีจังหวะนึกที่เป็นหัวโค้ง พอเลี้ยวปั๊บ จะเจอศาลใหญ่ ซึ่งไฟรถจะสาดไปพอดี โอ.. จุดนั้นเจ้าของบล็อกตัวแข็งไปแล้วค่ะ ไม่กล้ามองอะไรเลย จนมาถึงรีสอร์ท


ก่อนเข้าห้องแวะยืม DVD มาดูเพลินๆ ท้องร้องค่ะ ในงานคอนเสิร์ตไม่ค่อยมีอะไรทานซักเท่าไหร่ มีแต่เบียร์ (แหม.. ก็ช้างเขาสปอนเซอร์นี่เนอะ) เลยสั่ง room service มาที่ห้องค่ะ บริการ room service ที่นี่ 24 ชั่วโมงนะคะ แต่ว่าหลัง 5 ทุ่ม เมนูก็จะจำกัดหน่อย อาหารรสชาติดีค่ะ สั่งมา 2 อย่าง เนื้อย่าง กับข้าวอบสัปปะรด (ที่ไม่ใส่ในสัปปะรด)




พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนเนอะ ไว้พรุ่งนี้ตามมาเที่ยวกันต่อค่ะ :)

Friday, July 6, 2012

Snack review ・Processed Cheese Spread And Cracker ・

วันนี้มาลองทานขนมจากในรั้วในวังกันค่ะ แต่ว่าไม่ใช่ขนมโบราณเน้อ
เพียงแต่ว่ามันมาจากโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดานั่นเอง ก็มาจากวังล่ะเนอะ :D

พวกขนม/อาหารในโครงการสวนจิตรลดานี่ก็มีที่เจ้าของบล๊อกชอบอยู่หลายเมนูนะคะ
นมเขาก็หอม ไม่คาวด้วย (เจ้าของบล๊อกดื่มนมคาวๆไม่ไหวจริงๆค่ะ จะแหวะเอา) แล้วก็ยังมีบ๊วยกวนที่เคี้ยวนุ่มหนึบหนับ เปรี้ยวกำลังดี หวานกำลังโดน (เอ๊ะ! คุ้นๆ) ส่วนน้ำมะเขือเทศนี่ก็ดูจะเป็นที่นิยมของคนรักผิวสวย เพราะของเค้าเข้มข้นจริง (แต่อันนี้เจ้าของบล๊อกไม่เคยลองนะคะ ฟังเขาว่ามาอีกที)

กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ขนมนำเสนอวันนี้คือ เนยแข็งมหามงคลชนิดทาและขนมปังกรอบ จ้า
เจ้าของบล๊อกช้อบ ชอบ แต่ก็หาซื้อยากอยู่ กล่องนี้ได้มาจาก ร้านภูฟ้า สาขาดิสคอฟเวอรี่ ที่เดี๋ยวเขาจะปิดปรับปรุงนั่นล่ะ ราคาก็ไม่แพงด้วยนะเออ น่าจะ 10 กว่าบาทน่ะค่ะ ถ้าเจอร้านที่เป็นโครงการหลวงต่างๆ ลองชะเง้อดูในตู้เย็นนะคะ เขานอนอยู่ในนั้นแหละ

อ่ะ มาดูหน้าตากัน


ขนาดกล่องเขาไม่ใหญ่นะคะ ก็ประมาณฝ่ามือ

เปิดออกมามี 2 หลุมค่ะ หลุมแรกใส่ cracker ไว้ 3 แผ่น
อีกหลุมเป็นเนยแข็งมหามงคล ให้มาเยอะจุใจ ทาได้หนาพอสมควร แถมที่ตักเนยเล็กๆให้ด้วย


ที่ชอบก็เพราะว่ารสชาติมันเหมือนครีมชีสเลยค่ะ หย่อยๆ
ครั้งนี้เจ้าของบล๊อกแอ๊พพลายนิดหน่อย พอดีว่าที่บ้านมีกุ้งแห้งอยู่ก็เลยเอามาแปะไว้ด้านบน
ดูไปดูมา โอ๊ะ!~ นี่มันค๊อกเทลกุ้งแห้ง ดูหรูไฮอย่างไม่น่าเชื่อ >.< ถ้ามีไข่ปลาคาเวียร์ก็น่านำมาโรยยิ่งนัก (เคยกินเหรอยะหล่อน - -')   แถมรสชาติก็เข้ากันด้วยนะเอ้อ

จบรีวิวกันไปอย่างดื้อๆ


เอาเป็นว่าถ้าใครไปพบเจอล่ะก็ อย่าลืมซื้อมาลองชิมกันนะคะ
อร่อย แล้วก็ไม่แพงด้วยล่ะ :)

Thursday, July 5, 2012

Restaurant review • Good Apple •


วันนี้ก็มารีวิวร้านอาหารแถวบ้านอีกตามเคยค่ะ
คือช่วงนี้เจ้าของบล๊อกกับคุณแฟนกำลังตระเวนหาของอร่อยใกล้ๆ เผื่อวันไหนหิวๆ จะได้นึกร้านใกล้ๆออกได้ทันที ไม่เสียเวลา เพราะว่าเรื่องกินนี่เรื่องใหญ่ค่ะ ;b

ร้านที่จะพามาทานวันนี้อยู่ในซอยอินทามระ 4 ค่ะ ใกล้ๆกับโรงเรียนรุจิเสรีวิทยา ผ่านมากี่ทีก็ไม่เคยมาทันร้านปิดซักกะที เจ้าของบล๊อกกับคุณแฟนเลยหมายหัวร้านนี้เอาไว้ ว่าต้องมาทานให้ได้ แล้วก็สัมฤทธิ์ผลค่ะ โชคดีเมื่อวานคุณแฟนเลิกงานเร็ว เลยได้ฤกษ์ลองทานกัน



ในร้านมี 2 zone นะคะ outdoor กับ indoor เดินเข้ามาเจอป้ายถึงได้รู้ว่าเขาเปิด 11.00-20.00 น. อาหารก็หลากหลายค่ะ มีทั้งไทย ทั้งอิตาเลี่ยน ระหว่างที่กำลังงงๆ ดูเมนูกันอยู่ เชฟเดินออกมาบอกว่าซีซ่าร์สลัดสิๆ อร่อยๆ ก็เลยอ่ะ เอาๆ
พอลองดูเมนูต่อ น้องพนักงานเสิร์ฟบอกว่าสปาเก็ตตี้พริกแห้งเบคอนก็อร่อยค่ะ เลยสั่งมาอีก 1
คราวนี้ปิดเมนูแล้ว ถามเค้าเลยดีกว่า ว่าแนะนำอะไรอีกบ้าง เขาว่าลาซานญ่า ก็เลยเอาลาซานญ่าผักขมมาอีกจาน

อาหารทั้ง 3 ค่ะ


 ซีซ่าร์สลัด รสชาติกลางๆค่ะ


 สปาเก็ตตี้พริกแห้งเบคอน จานนี้เข้มข้น อร่อย แต่งงนิดหน่อยที่เขาใส่พริกหยวกเหลืองมาด้วย

 
 ลาซานญ่าผักโขม จานนี้ก็กลางๆ เช่นกัน มันไปนิด

ทานอาหารเสร็จก็ต่อด้วยของหวาน (เอ่อ.. ได้ข่าวว่ากินกันตอน 2 ทุ่ม)
เจ้าบล๊อกบล๊อกสั่งไอศครีมมา เพราะเห็นว่าเป็นเจลาโต้ดูน่ากิน ถ้วยนี้รสคาราเมลค่ะ แต่ได้ไปลองชิมรสบลูเบอร์รี่ชีสเค้กด้วย ก็แหล่มที่เดียว แต่เค้ากลัวคอเลสเตอรอล (หืมมม....)


 ส่วนคุณแฟนสั่ง roll cake ค่ะ เป็นไอศครีมเค้กรสกล้วยหอมช็อคโกแลตเนื้อเค้กมันแห้งไปนี้สสสนะคะ แต่รสกล้วยกับช็อคโกแลตชัดเชียะ


มื้อนี้เบ็ดเสร็จแล้วราคา 480 บาทจ้า อิ่มแปล้ทีเดียวเชียว
 
สรุปว่าสปาเก็ตตี้อร่อย ไอศครีมอร่อย เห็นเขามีเครื่องปั่นไอศครีมเครื่องมโหฬารมากอยู่ในครัว น่าจะทำเป็นล่ำเป็นสันเลย 
ใครที่ชอบทาเจลาโต้ก็ลองแวะไปชิมกันนะคะ (วันนั้นที่ไปทาน เป็นลูกค้าเจ้าเดียว กลัวเค้าเจ๊งง่ะ เดี๋ยวจะไม่มีของอร่อยกิน) :)